ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)

ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)


          Annelida   มาจากภาษาละติน (annullus = little ring) แปลว่า วงแหวนหรือปล้อง หมายถึง หนอนปล้อง   สัตว์ในไฟลัมแอนเนลิดา มีร่างกายที่ประกอบด้วยปล้อง (segment หรือ somite)   แต่ละปล้องคล้ายวงแหวนเรียงต่อกันจนตลอดลำตัว  และแสดงการเป็นปล้องทั้งภายในและภายนอก เช่นลักษณะกล้ามเนื้อ ระบบประสาท   ระบบหมุนเวียนโลหิต อวัยวะขับถ่ายตลอดจนอวัยวะสืบพันธุ์ ต่างก็จัดเป็นชุดซ้ำ ๆ   กันตลอดลำตัว และมีเยื่อกั้น (septum) กั้นระหว่างปล้อง ทำให้ช่องตัว  ถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ด้วย สัตว์ในไฟลัมนี้ที่รู้จักมีประมาณ 15,000 สปีชีส์  มีขนาดยาวน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร จนยาวถึง 3 เมตร พบอยู่ทั้งในน้ำเค็ม น้ำจืด  และที่ชื้นแฉะ
ลักษณะที่สำคัญ
          1. ร่างกายแบ่งเป็นปล้องอย่างแท้จริง  มีสมมาตรแบบครึ่งซีก (bilateral symmetry)
          2. เนื้อเยื่อแบ่งออกเป็น 3 ชั้น  ผนังร่างกายประกอบด้วยเอพิเดอร์มิสซึ่งมีชั้นคิวติเคิลบางๆปกคลุมอยู่  ถัดเข้าไปเป็นชั้นกล้ามเนื้อวงกลม (circular muscle )  และกล้ามเนื้อชั้นในเป็นชั้นกล้ามเนื้อตามยาว (longitudinal muscle)
          3. มีรยางค์เป็นแท่งเล็ก ๆ เรียกว่า เดือย (setae) เป็นสารไคติน (citin)  เช่นไส้เดือนดิน มีเดือยช่วยในการเคลื่อนที่และการขุดรู   ส่วนไส้เดือนทะเลมีเดือยและแผ่นขาหรือพาราโพเดีย (parapodia)  ยื่นออกมาทางด้านข้างของลำตัวใช้ในการเคลื่อนที่ แต่ปลิงไม่มีรยางค์ใด ๆ
          4. มีช่องตัวที่แท้จริง ช่องตัวถูกแบ่งออกเป็นห้อง ๆ โดยมีเยื่อกั้น (septum)  กั้นช่องตัวไว้ ภายในช่องตัวมีของเหลว (coelomic fluid)  
บรรจุอยู่ทำให้ร่างกายไม่แฟบ
          5. ทางเดินอาหารสมบูรณ์เป็นท่อยาวตลอดร่างกาย
          6. ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นแบบปิด (closed circulatory system)   น้ำเลือดมีสีแดงเพราะมีฮีโมโกลบินละลายอยู่
          7. หายใจผ่านทางผิวหนังหรือเหงือก
         

          8. ระบบขับถ่ายจะเป็นอวัยวะขับถ่ายที่เรียกว่า เนฟริเดีย (nephridia)   อยู่ทุกปล้อง ๆ ละ 1 คู่  เนฟริเดียจะช่วยขับของเสียออกจากช่องตัวและกระแสโลหิตออกนอกร่างกายทางรูขับถ่าย   (nephridiopores)
          9. ระบบประสาทประกอบด้วยปมประสาทสมอง (cerebral ganglia)  ติดต่อกับเส้นประสาทใหญ่ด้านท้อง (ventral nerve cord) ซึ่งทอดตามยาวของร่างกาย   เส้นประสาทใหญ่ทางด้านหลังจะมีปมประสาทประจำปล้อง (segment ganglia) ปล้องละ 1 ปม
          10. หนอนปล้องบางชนิดเป็นกะเทย (hermaphrodite) แต่มีการปฏิสนธิข้ามตัว เช่น   ไส้เดือนดิน ปลิงน้ำจืด พวกนี้มีการเจริญเติบโตโดยไม่ต้องผ่านระยะตัวอ่อน  หนอนปล้องบางชนิดมีเพศแยกกัน(dioecious) และการเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยต้องผ่านระยะตัวอ่อน ที่เรียกว่า โทรโคฟอร์  
(trochophore) เช่น แม่เพรียง เพรียงดอกไม้  ด้วยเหตุที่หนอนปล้องมีระยะตัวอ่อนโทรโคฟอร์ เช่นเดียวกับพวกมอลลัสก์ที่อยู่ในทะเล 
  ทำให้นักชีววิทยาเชื่อว่าสัตว์ทั้ง 2กลุ่มจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น